Accessibility Tools

ศาลยุติธรรม
Court of Justice

ข่าวสารและกิจกรรม
image

ศาลยุติธรรม

พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินทรงประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์และเปิดอาคารที่ทำการศาลอุทธรณ์ภาค 7 และศาลจังหวัดนครปฐมimage

วันนี้ (18 พฤศจิกายน 2563) พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินทรงประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์และเปิดอาคารที่ทำการศาลอุทธรณ์ภาค 7 และศาลจังหวัดนครปฐม ซึ่งตั้งอยู่อาคารเดียวกัน เลขที่ 100/1 ม.6 ต.ถนนขาด อ.เมือง ภายในศูนย์ราชการจังหวัดนครปฐม

โดย นางเมทินี ชโลธร ประธานศาลฎีกา นายสุพจน์ กิตติรักษนนท์ ประธานศาลอุทธรณ์ภาค 7

นายประกอบ ลีนะเปสนันท์ อธิบดีผู้พิพากษาภาค 7 นายชูตระกูล ศรีศักดา ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดนครปฐม นายพงษ์เดช วานิชกิตติกูล ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งเลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม พร้อมด้วยข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ศาลยุติธรรม ข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม ข้าราชการในพื้นที่ และเหล่าพสกนิกร เฝ้ารับเสด็จ ฯ

ในการนี้ นายวีระพงษ์ เสวกวงศ์ ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะชั้นต้นในศาลจังหวัดนครปฐม ได้เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายแผ่นศิลา เพื่อทรงลงพระปรมาภิไธย และลง

พระนามาภิไธย พร้อมกันนี้นายพงษ์เดช วานิชกิตติกูล ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งเลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม ได้เบิกผู้มีอุปการคุณแก่ศาลอุทธรณ์ภาค 7 และศาลจังหวัดนครปฐม รวม 120 ราย เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับพระราชทานของที่ระลึก โดยนายสุพจน์ กิตติรักษนนท์ ประธานศาลอุทธรณ์ภาค 7 ได้เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาททูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเงินโดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัยด้วย

ทั้งนี้ “ศาลอุทธรณ์ภาค 7” จัดสร้างขึ้นตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลอุทธรณ์ภาค พ.ศ.2532 และได้มีพระราชกฤษฎีกาเปิดทำการซึ่งเดิมมีที่ตั้งอยู่ ณ กรุงเทพมหานคร ถ.รัชดาภิเษก แขวงจอมพล เขตจตุจักร ขณะที่ศาลอุทธรณ์ภาค 7 มีอรรถคดีขึ้นสู่ศาลทั้งการอุทธรณ์คัดค้านคำพิพากษาของศาลชั้นต้น การยื่นคำฟ้องหรือคำร้องต่อศาลอุทธรณ์ภาค 7 โดยตรง เช่น คดีเกี่ยวกับการขอให้สั่งมีการเลือกตั้งใหม่ หรือเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งหรือสิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น โดยเขตอำนาจศาลนั้นครอบคลุม 8 จังหวัด ประกอบด้วย กาญจนบุรี นครปฐม ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี ราชบุรี สมุทรสงคราม สมุทรสาคร และสุพรรณบุรี ต่อมาในปี พ.ศ.2562 จึงได้มีประกาศคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม เรื่องเปลี่ยนแปลงสถานที่ตั้งของศาลอุทธรณ์ภาค 7 จากกรุงเทพฯ มายัง จ.นครปฐม เพื่อให้เกิดความสะดวกแก่ประชาชนในการที่จะเดินทางมาติดต่อราชการศาล

ส่วน “ศาลจังหวัดนครปฐม” เดิมตั้งอยู่เลขที่ 86 ถ.เทศา ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม

เขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีครอบคลุมพื้นที่ 7 อำเภอ ประกอบด้วย อ.กำแพงแสน อ.ดอนตูม

อ.นครชัยศรี อ.บางเลน อ.พุทธมณฑล อ.เมืองนครปฐม อ.สามพราน โดยอาคารที่ทำการนั้นรวมอยู่ในอาคารเดียวกับสำนักงานอธิบดีผู้พิพากษาภาค 7 และศาลแขวงนครปฐม ประกอบกับมีปริมาณคดีเพิ่มมากขึ้นตามความเจริญของ จ.นครปฐม ส่งผลให้ที่ทำการเดิมคับแคบไม่สามารถรองรับปริมาณคดีที่เพิ่มมากขึ้นได้ ดังนั้นเพื่อให้การบริหารงานในกระบวนการยุติธรรมมีประสิทธิภาพ ประชาชนเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมได้โดยสะดวก รวดเร็ว ไม่เสียค่าใช้จ่ายสูงเกินสมควร สำนักงานศาลยุติธรรม จึงดำเนินการสร้างอาคารที่ทำการศาลอุทธรณ์ภาค 7 และศาลจังหวัดนครปฐม ในศูนย์ราชการจังหวัดนครปฐม

ขณะที่อาคารศาลอุทธรณ์ภาค 7 หลังใหม่ เป็นอาคาร 3 ชั้น ขนาด 1 บัลลังก์ และศาลจังหวัดนครปฐม ขนาด 18 บัลลังก์ ที่ตั้งเดียวกันก่อสร้างบนที่ดินราชพัสดุ เนื้อที่ 21 ไร่เศษ ซึ่งแบ่งเนื้อที่ก่อสร้างอาคารบ้านพักข้าราชการศาลยุติธรรม ประมาณ 7 ไร่เศษ โดยอาคารที่ทำการของทั้งสองศาลได้สร้างสำเร็จสมบูรณ์แล้ว อาคารมีความกว้างขวาง เครื่องมืออุปกรณ์ทันสมัยเหมาะสม พร้อมให้บริการประชาชนเข้าถึงความยุติธรรมได้อย่างสะดวก รวดเร็ว เป็นอย่างดี


image รูปภาพ
image
image
image
image
image